เดือนมีนาคม เป็นเดือนที่จะเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ หรือ ฤดูแห่งดอกไม้บาน ที่เต็มไปด้วยสีสันและความรื่นรมย์สำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ดอกบ๊วยที่เริ่มบานมาตั้งแต่เดือนก่อนในบางพื้นที่ยังคงบานอยู่ในเดือนนี้ ดอกซากุระในโตเกียวก็เริ่มบาน สีชมพูสวยสดใส นับเป็นอีกเดือนหนึ่งที่คุณสามารถท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างสนุกสนาน อากาศในเดือนนี้อุ่นขึ้นกว่าเดือนที่ผ่านมามาก แต่โดยภาพรวมในเดือนมีนาคมนี้ ยังคงเป็นฤดูหนาว แต่จะค่อยๆ ก้าวเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิตั้งแต่กลางเดือน สำหรับใครที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเดือนมีนาคม แล้วยังไม่ได้วางแผน วันนี้ร้าน AkaShi จะมาแนะนำเทศกาลสุดฮิตและประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเดือนมีนาคม จะได้ไปเที่ยวกันแบบสนุกสนาน แถมยังอินไปกับทริปญี่ปุ่นนี้ เสมือนเป็นคนญี่ปุ่น จนคุณไม่มีวันลืม
1. เทศกาลโอมิซุโทริ お水取り(Omizutori festival)
ขอบคุณภาพจาก Tourkrub
วันจัดงาน : วันที่ 1 – 14 มีนาคม ของทุกปี
สถานที่ : วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) เมืองนารา, ภูมิภาคคันไซ, ประเทศญี่ปุ่น
โอมิซุโทริ ประเพณีโบราณที่จัดขึ้น ณ วัดโทไดจิ เป็นเทศกาลทางพุทธศาสนาที่ถูกจัดขึ้นมาอย่างยาวนานในทุกๆ ปี เรียกอีกชื่อว่า ชูนิเอะ (Shuni-e) เป็นพิธีกรรมทางพุทธศาสนาเพื่อเป็นการแสดงความสำนึกผิด นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางพุทธศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งมีการจัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนานถึง 1,250 ปี โดยจะดำเนินการพิธีกรรมที่ศาลาบนเนินเขา ศาลานิงะสึโดะ ที่วัดโทไดจิ เมืองนารา
ไฮไลท์ของงานเทศกาลนี้ คือ คบไฟขนาดยักษ์ เรียกอีกชื่อว่า โอไทมาสึ (Otaimatsu) ซึ่งจะเริ่มเมื่อพระอาทิตย์ตกดินของทุกคืน เป็นการแสดงที่น่าตื่นเต้นและมีชื่อเสียงมากที่สุด พระของวัดแห่งนี้จะทำการสวดมนต์และเดินภาวนารอบๆ วัดพร้อมการสาดส่งไล่วิญญาณชั่วร้ายด้วยคบเพลิง และคบเพลิงยักษ์ขนาด 6-8 เมตร จะถูกยกขึ้นไปบนระเบียงของศาลานิงะสึโดะ ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อกันว่าหากร่างกายโดนสะเก็ดไฟจากคบไฟที่ถูกจุดจากบนระเบียง จะได้รับการคุ้มครองจากสิ่งชั่วร้ายปลอดภัยตลอดปี นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการตักน้ำ คือ การที่นักบวชจะเดินลงจากหอนิกัทสึโดไปยังบ่อน้ำที่อยู่บริเวณฐานของหอ โดยใช้แสงจากคบไฟเพื่อนำทางไปตักน้ำจากบ่อน้ำกลับมายังหอนิกัทสึโด กล่าวกันว่าน้ำจากบ่อจะไหลออกมาเพียงปีละหนึ่งครั้ง และจะมีอำนาจในการฟื้นฟูและรักษา หากใครที่มีแพลนที่จะไปญี่ปุ่นในช่วงวันที่ 1 - 14 มีนาคม เทศกาลโอมิซุโทริเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่คุณไม่ควรพลาด
2. เทศกาลฮินะมะสึริ 雛祭り (Hina Matsuri festival)
ขอบคุณภาพจาก Tourkrub
วันจัดงาน : วันที่ 3 มีนาคม ของทุกปี
สถานที่ : บ้านตระกูลเก่าแก่, ย่านการค้า, สถานที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม และที่อื่นๆทั่วปะเทศญี่ปุ่น
เทศกาลฮินะมะสึริ หรือเรียกอีกชื่อว่า วันเด็กผู้หญิง เป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมตั้งแต่สมัยเอโดะ ถือเป็นเทศกาลของการอธิษฐานให้ลูกสาวมีความสุข ขจัดพลังชั่วร้ายออกไปจากชีวิต ประสบความสำเร็จ สุขภาพร่างกายแข็งแรง และงดงามชาวญี่ปุ่นบางคนเชื่อว่า หากจบช่วงเวลาเทศกาลแล้วควรรีบเก็บตุ๊กตาและหิ้ง เนื่องจากหากทิ้งไว้อาจทำให้ลูกสาวแต่งงานช้า เด็กผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่เทศกาล ฮินะครั้งแรก จะถูกเรียกว่า ฮัตซึ เซคกุ ซึ่งเธอเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้อาวุโส ย่า ยาย ที่จะซื้อตุ๊กจามาจัดโชว์ให้หลานสาว ครอบครัวที่มีลูกสาวจะเลี้ยงฉลองพิธีนี้อย่างตั้งใจ มีการดื่มฉลองแสดงความยินดีและอวยพรให้เติบโตอย่างมีความสุข
ไฮไลท์ของงานเทศกาลนี้ คือ ตุ๊กตาฮินะ มีชื่อเต็มว่า ฮินะนิงเงียว เป็นตุ๊กตาทำมือที่ประดับด้วยชุดแต่งกายตามราชสำนักญี่ปุ่นโบราณ สมัยยุคเฮอัง วางไว้บนชั้น 7 ชั้น รอบๆ ตุ๊กตาที่วางชั้นบนสุด คือ ตุ๊กตาเจ้าชายโอไดริซามะ และเจ้าหญิงโอฮินะซามะ ทั้งสองจะรายล้อมไปด้วยข้าราชบริพาร ตุ๊กตาจะมีเครื่องบูชา
3. เทศกาลแสงไฟคุระชิกิ 倉敷春宵あか (Kurashiki Spring Evening Light festival)
ขอบคุณภาพจาก Okayama-Japan
วันจัดงาน : วันที่ 8, 15 – 16 มีนาคม 2020 เวลา 18.00-21.00 น.
สถานที่ : ย่านเมืองเก่าคุระชิกิ (Kurashiki) ทางใต้ของจังหวัดโอคะยะมะ ประเทศญี่ปุ่น
เทศกาลแสงไฟคุระชิกิ เป็นเทศกาลที่บ่งบอกว่าฤดูใบไม้ผลิได้มาถึงแล้ว จัดขึ้นที่ย่านเมืองเก่าคุระชิกิ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดโอคะยะมะ โดยในอดีต เมืองคุระชิกิเคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมากๆ และเป็นศูนย์กลางทางการค้าตั้งแต่สมัยเอโดะ มีอายุยาวนานกว่า 300 ปี ปัจจุบันเป็นกลุ่มโบราณสถานที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี
ไฮไลท์ของงานเทศกาลนี้ คือ ทั้งเมืองจะถูกเรียงรายไปด้วยแสงไฟอันอบอุ่น จากเปลวเทียน โคมไฟกระดาษรูปทรงต่างๆ และร่มกระดาษแบบญี่ปุ่น ทั่วบริเวณโดยเฉพาะตามริมฝั่งแม่น้ำคุระชิกิ ชวนให้เพลิดเพลินกับบรรยากาศแสนโรติกในยามค่ำคืนของคุระชิกิ นักท่องเที่ยวก็สามารถล่องเรือชมความงามของไฟ หรือจะเดินเรียบแม่น้ำดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติคยามค่ำคืน สวยงามจนคุณไม่มีวันลืมแน่นอน และถึงแม้จะเป็นฤดูใบไม้ผลิ แต่ในตอนกลางคืนก็ยังคงมีอากาศที่หนาวเย็นอยู่ ดังนั้นควรแต่งกายให้อบอุ่นก่อนออกไปชมงานนะคะ
4. การแข่งขันซูโม่ประจำฤดูใบไม้ผลิ 大相撲三月場所 (Osaka Grand Sumo Tournament)
ขอบคุณภาพจาก Tokyo backpack
วันจัดงาน : วันที่ 8 – 22 มีนาคม 2020
สถานที่ : เอดิออน อารีน่า โอซาก้า (Edion Arena Osaka), เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
การแข่งขันซูโม่ ซูโม่มีประวัติยาวนานกว่า 1,500 ปี เป็นมากกว่าเกมส์กีฬาประจำชาติของญี่ปุ่น เพราะมันคือหนึ่งในวัฒนธรรมที่ตกทอดมาถึงปัจจุบันโดยยังคงรักษารูปเเบบวิธีในการปฏิบัติ เเละมีกลิ่นอายของความศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอีกด้วย ซูโม่ในสมัยก่อนเป็นการแสดงประกอบพิธีกรรมหน้าเทพเจ้าตามความเชื่อของชินโต เพื่อแสดงความเคารพเทพเจ้าและเพื่อขอพรให้พืชผลออกดีในฤดูเก็บเกี่ยวอีกด้วย จนถึงสมัยเอโดะ ในสมัยนั้นได้เริ่มมีการจัดการแข่งซูโม่ขึ้นเพื่อหาเงินบริจาคสร้างศาลเจ้าหรือวัด คนธรรมดาก็เลยมีโอกาสได้ชมซูโม่ และนักกีฬาซูโม่มืออาชีพก็ได้ถือกำเนิดขึ้น จนพัฒนามาเป็นกีฬาซูโม่ที่เราเห็นอย่างทุกวันนี้
ไฮไลท์ของงานเทศกาลนี้ เป็นการแข่งขันซูโม่ รอบที่ 2 ประจำฤดูใบไม้ผลิ จัดขึ้นที่โอซาก้า เป็นระยะเวลา 15 วันการแข่งขันจะจัดทุกเดือนที่เป็นเลขคี่ สถานที่จัดการแข่งขันจะเปลี่ยนทุกๆครั้ง ใครที่อยากเห็นการแข่งขันซูโม่ของจริงสักครั้งในชีวิต สัมผัสความเป็นญี่ปุ่น เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจยากที่จะลืมแน่นอน สามารถซื้อตั๋วได้ที่เว็ปไซต์ http://www.sumo.or.jp/En/ หรือจะซื้อตามแพ็คเกจทัวร์ เริ่มจำหน่ายตั๋ว วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2020 ค่ะ
5. วันไวท์เดย์ ホワイトデー (White Day)
ขอบคุณภาพจาก ikidane nippon
วันจัดงาน : วันที่ 14 มีนาคม ของทุกปี
สถานที่ : ทั่วประเทศญี่ปุ่น
วันไวท์เดย์ วันแห่งการตอบแทนที่ผู้ชายจะมอบแก่สาวๆ หลังได้รับของขวัญสื่อรักจากผู้หญิงในวันวาเลนไทน์ ฝ่ายชายจะต้องให้ของขวัญกลับในวันไวท์เดย์ จะถูกเรียกว่า ซัมไบกาเอชิ และต้องมีมูลค่ามากกว่าที่ฝ่ายหญิงให้ 3 เท่า สาเหตุที่สีขาวถูกเลือกมาเป็นชื่อของวันนี้ เพราะเป็นสีแห่งความบริสุทธิ์ ที่สะท้อนถึงความรักวัยแรกรุ่นอันบริสุทธิ์ และยังเป็นสีของเกล็ดน้ำตาลขาวๆ
ไฮไลท์ของงานเทศกาลนี้ วันไวท์เดย์ในปัจจุบัน จะมีการให้ขนมหลักๆอยู่ 3 อย่าง ซึ่งขนมแต่ละชนิดจะมีความหมายที่แตกต่างกันไป ผู้ชายจึงควรเลือกซื้อของขวัญอย่างระมัดระวังเพื่อให้ตรงกับความหมายที่จะให้กับผู้หญิง
เพราะฉะนั้นใครที่ไปญี่ปุ่นในช่วงไวท์เดย์ ก็ไม่ต้องแปลกใจหากเห็นสาวๆ และหนุ่มๆ ญี่ปุ่นเดินถือของขวัญเต็มไม้เต็มมือ ไม่ต่างจากวันวาเลนไทน์ สำหรับหนุ่มๆ คนไหนกำลังมองหาของขวัญที่จะให้กับสาวๆในวันไวท์เดย์ เพื่อตอบแทนสาวๆที่มอบของขวัญให้ในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา สามารถเลือกดูขนมญี่ปุ่นกับทางร้านเราได้นะคะ
6. เล่นสกีและสโนว์บอร์ด スキーとスノーボード (Skiing and Snowboarding)
วันจัดงาน : ต้นเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนมีนาคม
สถานที่ : สกีรีสอร์ท แนะนำในจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) และภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ส่วนเทือกเขา แนะนำในจังหวัดนิงะตะ (Niigata), จังหวัดกุนมะ (Gunma), จังหวัดอาโอะโมริ (Aomori) และจังหวัดนากาโนะ (Nagano)
ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถานที่เล่นสกี และสโนว์บอร์ดชั้นนำระดับโลก ทั้งอุดมสมบูณ์ หิมะคุณภาพดี ทิวทัศน์สวยงาม และสามารถผ่อนคลายไปกับน้ำพุร้อนได้ สำหรับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด ในช่วงเดือนมีนาคมนั้น สามารถเล่นสกี และสโนว์บอร์ดส่งท้ายได้ โดยช่วงนี้หิมะจะเริ่มจับตัวเป็นก้อน มีคุณภาพดี เป็นผง และไม่เปียก อากาศก็ดีมากๆ ช่วงนี้เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการเล่นสกี
สำหรับการแต่งกายสำหรับการไปลานสกี เราสามารถไปเช่าชุดและอุปกรณ์เล่นสกีแบบเต็มชุดได้ที่สกีรีสอร์ทได้เลย มีทั้งของเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้หญิง ผู้ชาย ครบครันมากๆ สามารถเข้าไปเล่นสกีได้แบบไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรไปเลย
7. ชมดอกซากุระ 桜 (Cherry blossom)
วันจัดงาน : วันที่ 15 มีนาคม ถึงเดือนเมษายน
ชมดอกซากุระ สิ่งที่อยู่คู่กับฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่น คือ ดอกซากุระบานสะพรั่ง นั่นเอง กลีบสีขาวและสีชมูของดอกซากุระตามสถานที่ต่างๆ จะบานรอผู้คนไปเยี่ยมชมความงดงามไล่ตั้งแต่เกาะทางใต้จรดไปยังเกาะทางเหนือ และคนญี่ปุ่นจะมีประเพณีฮานามิ (Hanami) คือ การดูความสวยงามของดอกไม้ เป็นประเพณีที่นิยมอย่างมาก เป็นประเพณีเก่าแก่มากกว่าพันปี ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า ช่วงฤดูใบไม้ผลิ คือช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้น เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเฉลิมฉลองอย่างรื่นเริง ไม่ว่าจะกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือเพื่อนร่วมงาน ก็จะนิยมมาปูเสื่อใต้ต้นซากุระ เตรียมของมาปิกนิกปาร์ตี้เลี้ยงฉลองเล็กๆ และก็รับประทานอาหารร่วมกัน รวมไปถึงการร้องรำทำเพลง ตลอดจนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนสดชื่นของอีกหนึ่งฤดูที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น และข้อห้ามในการชมดอกซากุระ